เป็นมือถือที่ใช้ระบบ Android One ที่ลื่นหัวแตก แถมยังได้กล้องที่คุณภาพดี คุ้มค่ามาก
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำมือถือ Xiaomi Mi A3 มาใช้เป็นเครื่องหลักประมาณ 2 สัปดาห์ โดย Xiaomi Thailand ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง AbZoLute Review ทดสอบใช้ถ่ายรูปอย่างจริงจังในหลายๆ เหตุการณ์ พาออกไปเที่ยวถ่ายรูปเก็บทุกบรรยากาศ เลยจะมาเล่าถึงความสามารถกล้องมือถือรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
สเปคกล้อง
มือถือ Xiaomi Mi A3 กล้องหลัง : 3 ตัว
ระบบโฟกัส : PDAF (Phase Detection Auto Focus)
ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด : 2160p@30fps, 1080p@30/120/240fps, 1080p@960fps
กล้องตัวที่ 1 กล้องหลัก
ความละเอียด : 48 ล้านพิกเซล, F1.8, ขนาดขนาดเซนเซอร์ 1/2 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
กล้องตัวที่ 2 Depth sensor วัดระยะความลึก
ความละเอียด : 2 ล้านพิกเซล, F2.4
กล้องตัวที่ 3 Ultrawide กว้างพิเศษ
ความละเอียด : 8 ล้านพิกเซล, F2.2, ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน
กล้องหน้า 1 ตัว
ความละเอียด : 32 ล้านพิกเซล, F2.0, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
หน้าจอการถ่ายรูป
มี AI เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดูเหมือนฉลาด และรวดเร็วขึ้นเยอะ จำแนกภาพได้แม่นยำ ในรูปจะเห็นเป็น สถาปัตยกรรม ส่วนโหมดถ่าย 48 ล้านพิกเซลจะซ่อนอยู่ในเมนูด้านบนแทน ในโหมด Pro ยังมีจุดเด่นเหมือนเดิมคือ สามารถเปิดสปีดชัตเตอร์ได้ยาวนานถึง 32 วินาที นานที่สุดในกล้องมือถือ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Mi เลยก็ว่าได้
บททดสอบกล้อง ในแต่ละด้านทั้ง 6 ข้ออย่างละเอียด และเจาะลึกการถ่ายรูป มาให้ดูกันครับ
1. ภาพในที่มีแสงปกติ (กลางวัน) โหมด Auto
1.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
1.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
1.3 ถ่ายอาหาร ขนมหวาน =
1.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
1.5 ถ่ายย้อนแสง HDR =
1.6 ภาพถ่ายระยะใกล้ Macro =
2. ภายในที่มีแสงน้อย (กลางคืน) โหมด Auto
2.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
2.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
2.3 ถ่ายอาหาร =
2.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
2.5 ถ่ายกลางคืนด้วย Night mode =
2.6 ถ่ายด้วยโหมด Pro ใช้ขาตั้งกล้อง =
3. ภาพถ่ายบุคคล โหมด Auto และ Portrait =
4. กล้องหน้า ถ่ายเซลฟี่ =
4.1 ในที่มีแสงปกติ โหมด Auto และ Portrait
4.2 ในที่มีแสงน้อย โหมด Auto และ Portrait
5. การบันทึกวีดีโอ, กันสั่น, Time Lapse, Super slow motion
6. จุดเด่น / จุดสังเกต ด้านกล้อง
จุดเด่น
– ไม่มีเลนส์เทเลมาให้ แต่ซูม 2x ได้สบายๆ และซูม 5x ยังพอได้ภาพอยู่
– ระบบ HDR ทั้งหล้องหน้า และหลังทำงานได้ดีมาก เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูลภาพในส่วนสว่าง และส่วนมืดได้เกือบทั้งหมด
– โหมด Portrait ละลายหลังได้ค่อนข้างแม่นยำเลย เพราะมีเซนเซอร์วัดระยะมาให้ด้วย
– ให้ความละเอียดกล้องหน้ามากถึง 32 ล้านพิกเซล คุณภาพที่ได้ประจับใจเลย
จุดสังเกต
– app กล้องยังมีหน่วงๆ บางครั้ง ต้องรออัพเดตอีกที
– ไม่มีกันสั่น OIS มาให้
– เลนส์กล้องนูนออกมาจากตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ
สรุปการใช้งานภาพรวม
– สเปคหน้าจอความละเอียด 720p ค่อนข้างน้อย แต่สมราคาเครื่องแล้ว
– วัดแสงหน้าจอไม่ค่อยแม่น ตอนเล่นเกมมือจะชอบไปบัง เหมือนว่าตำแหน่งไม่ค่อยถูกจุด
– ฝาหลังสวยมากๆ สวยสุดในซอยแล้ว
– มีรูหูฟัง 3.5 mm. มาให้
– เป็นระบบ android one ใช้งานได้ลื่นไหลมาก
*รูปในกระทู้ไม่มีการปรับแต่งสี และไม่เพิ่มความคมชัด หรือลด noise เพื่อให้เหมือนจากต้นฉบับหลังกล้องมากที่สุด
**รูปในกระทู้มีการเพิ่มความสว่าง และครอปภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรม Lightroom
ขอบคุณที่ติดตาม และช่วยกด “+” กระทู้ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ
วิน
